12.13.2553

ปกิณกะ: การดูแลสุขภาพองค์รวมเชิงรุก (ตอนจบ), How to take care of the heath care

หลังจากตรวจคุณภาพอุจจาระ ปัสสาวะ ของตัวเองกันแล้ว ออกจากห้องน้ำกันนะคะ เรามาดูชุดแต่งของพวกเรากันบ้าง


แต่งตัว อุปกรณ์และชุดแต่งต่างๆ
  • ลิปสติก บางคนทาลิปสติก และลิปมัน ในเวลาก่อนทานอาหาร ให้เช็คลิปสติกก่อนพอกินเสร็จแล้วค่อยทาเข้าไปใหม่ เพราะไม่งั้นลิปสติกจะเข้าไปสะสมอยู่ในกระเพาะมันไม่ละลาย จะเป็นเศษตะกรันตกค้างอยู่ในกระเพาะ เป็นขี้ผึ้งพวกกลุ่มพาราฟิน ยิ่งเป็นพวก long lasting เคยไหนก็อันตรายมาก จะไปเกาะเคลือบอยู่ในทางเดินอาหารทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ไม่ดี เช่นเดียวกันแก้ว นำ้อัดลมที่มีสารเคลือบอยู่ แต่ถ้าจำนวนไม่มากร่างกายสามารถขับออกมาได้ พวกไฟเบอร์จะเป็นตัวทำความสะอาด กวาดออกมาด้วย
  • รองเท้า รองเท้าหัวแหลม เชิด และส้นสูง จะทำให้เกิดตุ่มที่หัวแม่เท้า มีผลทำให้ปวดข้อ ปวดหลังและไหล่ พยายามหลีกเลี่ยง รองเท้าไม่ควรเกินนิ้วครึ่ง ไม่ควรให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีใส่รองเท้าส้นสูงเพราะจะทำเด็กเอวหัก (โค้ง เอนมากเกินไป) ทำให้เด็กปวดหลังเรื้อรัง เกิดจากโครงสร้างของเด็กยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ 
  • ถุงเท้า ควรจะใส่ถุงเท้าที่เป็น cotton ไม่ควรใส่ที่เป็นใยสังเคราะห์ และถ้าใส่กระโปรงสั้น หรือกางเกงขาสั้น ควรใส่ถุงเท้าที่สูงขึ้นมารัดน่องเลยไม่ควรรัดแค่ข้อเท้าเพราะจะยิ่งทำให้เป็นเส้นเลือดขอด และสำหรับผู้ที่มีปัญหาความดันต่ำควรจะใส่ถุงเท้าหนาที่เป็น supporter รัดกล้ามเนื้อเอาไว้ด้วยจะช่วยเรื่องปัญหาความดันสูงขึ้นได้ และช่วยป้องกันเส้นเลือดขอดด้วย ดีมากเวลาขึ้นเครื่องบินที่ต้องบินนานๆ ด้วย
  • ชุดชั้นใน สำคัญมากต้องสะอาด ไม่อับชื้น และไม่มีเชื้อรา ถ้ามีจุดราเล็กๆ ก็ต้องทิ้งเลย ไม่ควรจะใส่รัดแน่นเกินไป และเวลานอนไม่ควรจะใส่ชุดชั้นใน
  • กางเกงเอวตำ่ ทำให้เราปวดหลัง มันจะรัดระบบประสาท ทำให้ตึงเครียด ปวดเอว ปวดหลัง และไม่ควรเอาอะไรใส่ที่กระเป๋าหลังทั้งนั้น เพราะจะยิ่งเพิ่มการกดทับ กางเกงก็ควรจะใส่ที่เอว
  • กระเป๋าถือ ไม่ควรจะใส่ของหนักมากนัก ถ้าจะใส่ของหนักให้สะพานเป้ และสะพายทั้ง 2 ข้าง หรือกระเป๋าสะพานเฉียงก็ได้ 
  • มือถือ ควรจะอยู่ในกระเป๋าหรือที่ๆ ห่างจากตัวพอสมควร ไม่ควรไว้ในกระเป๋าหลังกางเกง กระเป๋าเสื้อใกล้หัวใจ เพราะมือถือจะมีรังสีกลุ่มหนึ่งซึ่งส่งผลให้ร่างการเราไม่สามารถผลิตโปรตีนได้ในบริเวณใกล้เคียง และขัดขวางการสร้างแคลเซียม นานเข้าก็จะส่งผลให้ร่างกายบริเวณนั้นกระดูกพรุน เปราะ หรือถ้าเอาไว้ใกล้หัวใจก็จะไปรบกวนคลื่นการเต้นของหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ และไม่ควรจะคุยโทรศัพท์ไปเดินไป จะให้ให้ปวดหลัง ควรจะหยุดเดินแล้วก็คุยให้เสร็จแล้วค่อยเดินต่อ และอย่าเอาโทรศัพท์ไว้ที่หัวเตียงเวลานอน จะไปรบกวนคลื่นจิตและคลื่นสมอง จะทำให้มีอาการเบลอฝัน และหลับไม่สนิท ช่วงขณะที่เราคุยโทรศัพท์มือถือจะมีกระแสยิงมาทำให้สมองเราจะไม่ผลิตโปรตีนหรือไม่เอาสารอาหารมาเลี้ยงสมองทำให้เซลล์สมองเราขาดออกซิเจนและสารอาหารมาเลี้ยงสมองชั่วขณะหนึ่ง bluetooth จะยิ่งส่งเสริมให้หนักคืออีก


    After check up your own urine and stool. Let's have a look for your accessaries.
    Get dressed
    • Lipsticks, lip gloss, lip balm, and especially long lasting lip products should be removed before meals or they will be collected as deposit in stomach and deteriorate metabolism. The same case applies in paper cups mostly sold with soda in convenience stores. Fortunately, our body can naturally utilize fiber eaten to cleanse the substance only when small amount is consumed.
    • Narrow shoes, raised shoes, and high heels cause pimples and pain in joints, back, and shoulders. Heels higher than one and a half inch should not be worn. Children under age of 18 should avoid high heels since it will misshape waist and cause prolonged back pain.
    • Choose 100% cotton socks, not the ones made from synthetic fabrics. Whenever you wear short skirts or short pants, wear long pair of socks as high as your calf. Socks as short as your ankles can cause varicose vain. Thick supporter socks should be worn to tighten calf muscles, help balance the blood pressure, and good for long flights sitters.
    • It is very important that underwear items are clean, not too tight, and not damp. They should be disposed of if fungus appears and should not be worn to bed.
    • Pants should be worn at waist level. Low waist pants can cause back and waist pain. They tighten nervous systems and cause stress. Back pockets of pants should be kept empty to avoid pressure.
    • Hand bags should not be too heavy to carry. If you need to carry heavy things, put them in backpacks.
    • Cell phones should be kept in bags or away from you, not in back pockets of your pants or anywhere close to your heart. Ray from cell phones stops protein and calcium production, causes osteoporosis, and abnormal heartbeat. Do not use cell phone while you walk since it will cause back pain. Cell phone wave also disturbs brain activity by preventing protein production and stopping nutrient and oxygen normal routines. Bluetooth does not help, but makes it worse. Do not put cell phone near bed head since it will disturb your brain wave and cause dogsleep.



      อาหาร
      • อาหารเช้าอย่างราชา อาหารเที่ยงอย่างคนธรรมดา อาหารเย็นอย่างยาจก ทำได้กันไหมคะ ส่วนมากจะสลับกันเนอะ
      • ไม่สำคัญว่าเราทานอะไร แต่สำคัญที่ว่ากินอย่างไร และเมื่อไร อาหารที่สะสมพลังงานมากๆ เช่นของหวาน ไอศครีม ก็ให้ทานก่อนบ่ายโมงเพราะร่างกายจะได้มีเวลาเอาไปใช้ไม่สะสม 
      • วิธีที่จะทำให้เราไม่อ้วนอย่างถาวรคือ 1. เรียนรู้ที่จะปฏิเสธอาหารบางชนิดที่อันตรายกับร่างกายเช่นของทอดกรอบ ทอดแห้ง เกรียม ตั้งโปรแกรมปฏิเสธไว้เลย 2. เรียนรู้ที่จะรู้กิโลแคลอรี่ของอาหาร คำนวณออกมากได้ และทานเท่าที่ร่างกายจำเป็นใช้ให้เหมาะกันกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน (ถ้าต้องการควบคุมน้ำหนักประมาณนี้ ก็ 1,500 กิโลแคลอรี่ต่อวัน ต้องการลดน้ำหนักก็ 1,200 กิโลแคลอรี่ต่อวัน ต้องการเพิ่มน้ำหนักนิดหน่อยก็ 1,800 กิโลแคลอรี่ต่อวัน ประมาณนี้) การมีน้ำหนักขึ้นลงอย่างรวดเร็วไม่เป็นผลดีกับร่างกาย จะทำให้ผิวเป็นผิดแตกลายงา เนื่องจากการขยายหรือหดตัวอย่างรวดเร็วเกินไป 3. วิธีปรุง ควรเลี่ยงการทอดให้มาก ให้ต้ม นึ่ง ลวก ย่างแทน 
      • หลีกเลี่ยงอาหารที่ไหม้เกรียม โปรตีนที่ไหม้เกรียมจะทำให้โครงสร้างของเคมีเปลี่ยนไปซึ่งเป็นต้นเหตุของมะเร็ง เป็นโปรตีนมะเร็ง เลี่ยงอาหารทอดและอาหารที่ผ่านความร้อนสูงและเร็วเกินไป นำ้มันที่ทอดก็อย่าเวียนหลายรอบ
      • ผลไม้ที่เน่าไม่ควรตัดส่วนที่เน่าทิ้งแล้วทาน ควรจะทิ้งไปเลยทั้งผล เพราะเคมีในผลไม้เปลี่ยนไปไม่เหมาะแก่การรับประทานแล้ว
      • ไข่แดงที่ไม่สุกร่างกายย่อยได้ แต่ไข่ขาวที่ไม่สุกร่างกายย่อยไม่ได้
      • หมู วัว ไก่ จะมีความเครียดก่อนที่จะถูกฆ่า และก็หลั่งสารเครียด (adrenalin) ซึี่งเป็นสาเหตุของมะเร็งด้วย แต่กุ้ง ปลาหมึก หอยจะไม่มี ปลาก็มีน้อย
      • ควรดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำแร่ หลีกเลี่ยงพวกน้ำอัดลม น้ำผลไม้ (ให้ทานเป็นผลไม้แทนจะได้กากด้วย)
      • ไขมันในร่างกายถ้าไม่มีการนำไปใช้จะมีการแบ่งตัวของเซลล์ไขมัน (fat cell) และกำจัดอยากมากคือถ้าน้ำหนักเราเกินพิกัดเราก็จะอ้วนขึ้นอีกถึงแม้นว่าเราจะกินอาหารในแต่ละวันแค่พอให้ร่างกายใช้ทำกิจกรรมระหว่างวัน ถ้าเราไม่กำจัดไขมันทิ้งไป (เหมือนฝากเงินในธนาคารก็จะออกดอกผล) ฉะนั้นอย่าอ้วนนาน
      • การลดอาหารแบบ no carb เป็นวิธีที่อันตรายกับร่างกายมาก เพราะร่างกายยังต้องการแป้งเพื่อใช้เป็นพลังงานด้วย และการงดแป้งจะทำให้นอนไม่หลับด้วย กระสับกระส่ายส่งผลกับอาการทางประสาท หงุดหงิน (ขี้วีน) และกล้ามเนื้อลีบฝ่อ (เพราะร่างกายจะใช้โปรตีนไม่ได้ถ้าไม่มีแป้งเป็นฐานประกอบ) น้ำหนักจะลดเร็วจริง แต่ส่งผลเสียระยะยาวกับร่างกายมาก ให้เลือกประเภทแป้งที่ทานจะดีกว่างดไปเลย เช่นแป้งจากพวกเผือก มัน (เป็นคาร์บอไฮเดตเชิงเดี่ยวที่ดีมากกับร่างกาย) ห้ามขาดแป้ง วิตามินบีอยู่ในแป้งด้วย กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ดีที่สุด
      • ให้กินอาหารหยาบๆ ผ่านกระบวนการปรุงแค่ครั้งเดียว หรือไม่เกิน 2 ครั้ง อย่ากินอาหารละเอียด (ผ่านกระบวนการหลายๆ ครั้ง)
      • ถ้าร่างกายได้รับแป้งเกินความต้องการของร่างกาย ขอบตาจะดำคล้ำ (ถ้าไม่ได้นอนดึกนะ) ทำให้ไม่สดชื่น เพราะแป้งร่างกายต้องการพลังงานในการย่อยมาก > ก่อให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์มากในกระแสเลือด > จะหาว คือเป็นหนี้ออกซิเจน มีออกซิเจนไม่พอในกระแสเลือด มีคาร์บอนไดออกไซด์มากเกินปริมาณที่เหมาะสม เพราะบริเวณใต้หนังตา ไม่สามารถระบายเหงื่อได้ เมื่อมีความร้อนสูงมันก็จะคล้ำ เก็บความร้อนได้ไว
      • น้ำแตงกวา (ปั่นแตงกวาและคั้นแต่น้ำดื่ม) ต้องแน่ใจว่าเราไม่แพ้แตงกวาและไม่เป็นโรคเก๊าต์ (gout)  สามารถช่วยลดความร้อนในร่างกาย ทำให้ลำไส้เย็น ได้เป็นอย่างดี ดีกับคนที่เป็นภูมิแพ้ด้วยมี histamine หลั่งตัวเราก็จะร้อนจัด แก้ด้วยการลดความร้อน อาจทานผักใบเขียวก็ช่วยให้ร่างกายเย็นลงได้
      • ถ้าต้องการให้ทานอาหารได้น้อยลง ก่อนมื้ออาหารสัก 15 นาทีให้ดื่มน้ำเย็นจัดจะทำให้กระเพาะหดตัวแล้วก็จะทำให้ทานอาหารได้น้อยลง
      • อาหารเสริมควรบ้าง เพราะวิตามินบ้างตัวร่างกายไม่สามารถสร้างได้เอง บางที่ได้จากอาหารไม่เพียงพอ และร่างกาย mal function (mal=ป่วยไข้) เช่น Q10, grucosamine, multi vitamin, calcium + magnesium, vitamin B, C เพราะเป็นวิตามินที่ร่างกายสูญเสียไปง่าย เช่น เสียเหงื่อมาก กินเหล้า ตัวร้อน ถ้ากลัวว่าจะเกินความต้องการของร่างกายและสะสม (ไม่ค่อยพบ) ก็ให้ทาน dose ตำ่ๆ และใน 1 อาทิตย์ก็หยุดวิตามินสัก 1 วัน
      • เวลารับประทานอาหารควรจะรับประทานอาหารอย่างเดียวอย่าทำกิจกรรมร่วมไปด้วย เช่นทำการบ้าน อ่านหนังสือ เพราะร่างกายจะสับสนไม่รู้ว่าจะทำอะไรจะทำให้เราไม่ได้รับสารอาหารที่ทานเข้าไป



        Food
        • Try to eat breakfast like King and lunch like a general person and dinner like a poor people. Can you do that? Normally it is a wrong way around.
        • No matter what we eat. But important as how and when to eat. The food that accumulates a lot of energy, such as sweets, ice cream, then should eat before one o'clock because the body will have time to burn the calories.
        • How to make us not fat in permanently. 1. Learn to refuse some foods as harmful to the body such as fried food. Set the programme to refused those foods automatically. 2.learning to know kilo calorie of food. Calculations : Eat as much as only the body needs to use it for the various activities each day. (To control calories, if the weight need about 1,500 kilo calories per day. If you want to lose weight, you need only 1200 kg calories per day. To add a little weight, you need 1800 kilo calories per day.) The weight up and down quickly not good for the body. The skin will have expansion or contraction too quickly 3. how to cook : you should be avoided fried food as much as you can. Try to boiled food or steam it instead of roast or grill food.
        • Avoid foods that burn. Because of the protein structure in the burn food is changed the chemical in the food that cause cancer is called “cancer protein”. Avoid fried foods and foods which cook with high heat and or cook too quickly. Try not to use the same oil many times.
        • Fruit which has gone in some parts of fruit, should not cut the waste and eat a good part. Should be through away the whole fruit. Because of chemical in the fruit has changed and is not good for eating.
        • The undercooked of yolk egg can digested but the undercooked of white egg can not digested.
        • Chicken, pork, beef will stress before being killed. Also the stress issues the substance (adrenalin) which causes cancer, but fish, shrimp, squid, shellfish have not got it or it is less.
        • Drink water or mineral water. Avoid soft drinks, juice (eat fruit instead of juice can get a fibre as well).
        • Body fat if not used, it will become to division of fat cells and is very difficult to remove and if we overweight, we will get even fatter. Although we will eat just enough food for each day and do physical activity during the day. If we do not make the fat away. (it likes a deposit in the bank which will get interest), so do not get fat so long.
        • No carb diet is harmful to the body so much Because the body also needs energy from the carbohydrate (flour). And avoiding carbohydrate will not good for sleeping. It affects for neurological, and muscle atrophy (because the body would not have been possible to digest very well without the protein). When you cut down the carbohydrate, the weight will reduce very fast. But in long-term, it effects on the body. Choose the type of carbohydrate before you eat better than to cut it. For example the carbohydrate from taro and tallow are single carbohydrate which is good for the body. Don't cut down the flour either because it has vitamin B in the flour. Try to eat the full 5 main sorts of food is the best.
        • To eat rough food is cooking process only once or no more than 2 times. Do not eat fine food is cooking through the process several times.
        • If the body has excess carbohydrate more than the body needs, around the eyes will be black. (Even though you are not sleep late), and you will feel not fresh!! Because the body needs more energy to digest the carbohydrate> cause more carbon dioxide in the blood>. Yawn that is the debt oxygen. There is not enough oxygen in the bloodstream. With the too much in amount of carbon dioxide excess. Because the area under the eyelids can not released the sweat. When it is hot, it gets dark. Because it keeps the heat.
        • Water Cucumber (cucumber and cucumber juice) to make sure we are not allergic in a cucumber and gout. The cucumber can reduce the body heat. The cool the intestine, good to have with someone who is allergic histamine. Our bodies are hot. By reducing heat eat green leafy vegetables may also help the body cool down.
        • If you want to eat less, 15 minutes before a meal, drink some cold water will shrink the stomach and then you will eat less.
        • Vitamin supplements should do, because some of the body can not create your own. Some from lack of food and physical mal function (mal = illness), such as Q10, grucosamine, multi vitamin, calcium + magnesium, vitamin B, C.Vitamin because the body is lost vitamin very easily such as when you sweating, drink alcohol a lot and high fever. If you are worried that is too much vitamin
        • more than the body's needs (rare), then take low-dose and in 1 week you can stop taking vitamin one day.
        • Time to eat food should not only do activities such as homework with reading because it will confuse the body does not know what to do, we will not get into nutrients.

            การทำงาน
            • ที่นั่งไม่ควรสูงหรือตำ่ไป เท้าควรจะติดพื้นและหลังผิงพนัก ถ้าเป็นไปได้เก้าอี้ไม่ควรจะเป็นแบบมีล้อเพราะจะทำให้เราต้องเกรงหลังโดยไม่รู้ตัว ต้องนั่งหลังตรง และแนะนำให้รัดเอวไว้ด้วยเพื่อช่วยพยุงหลัง และรับน้ำหนักตัวเราจะสามารถลดและป้องกันอาการปวดหลัง หาที่รัดข้อมือ (เหมือนที่่ใช้เล่นกีฬา) เพื่อให้เอ็นข้อมือไม่ทำงานหนักเกินไป
            • ควรเคลื่อนไหวร่างกายเปลี่ยนอริยาบทบ่อยๆ ในระหว่างการทำงาน ละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์บ้างเพื่อป้องกันกล้ามเนื้อตาล้าทำให้สายตาผิดปกติในที่สุด และป้องกันการเป็น office syndrome
            • ระวังกล้ามเนื้อคออย่าให้เกร็งและล้าจนเกินไป หาผ้าขนหนูชุบน้ำร้อนวางบริเวณไหล่สามารถช่วยผ่อนคลายอาการได้
            • ไม่นั่งไขว่ห้าง และไม่นั่งเอียง พยายามผ่อนคลายคอ หลัง ไหล่ และล้างมือให้บ่อยป้องกันการติดเชื้อโรคจากผู้อื่น
            • การปวดหลังต้องสังเกตว่าปวดตอนไหน ถ้าปวดตัวเช้า เป็นเพราะที่นอนทรุด ให้หาแผ่นไม้ไผ่มารอง ถ้าปวดตอนบ่ายๆ แสดงว่าอริยาบทระหว่างวันไม่เหมาะสม หรืออาจเป็นเพราะเก้าอี้ที่นั่งทำงานไม่เหมาะสม ถ้าปวดตลอดเวลา แสดงว่ากระดูกหรือกล้ามเนื้อหลังมีการทรุด อักเสบ เคลื่อน ต้องไปพบแพทย์



            Work
            • The chair seat should not be too high or too low. Feet should touch the floor and the back should touch a back seat. If possible, should not use a chair with wheels because it will make you afraid to sit back without knowing. Have to sit back straight. And tight the waist with a waist strap to help support the back. And the weight can reduce and prevent back pain. Find the wrist strap (as used to play sports), so that ligament of the wrist is not overworked.
            • Body movement should change the position often during working. Take the eyes from the computer screen to prevent some eye muscle fatigue cause abnormalities in the eye and protect the office syndrome.
            • Be careful not to tense neck muscles and too fatigue. Find a hot damp towel, place it on the shoulders to help relax the symptoms.
            • Do not sit cross legs or sit not straight. Relax your shoulders and neck after trying to wash your hands frequently to prevent infection of others.
            • Back pain must be noticed that pain and why. If the pain the morning. Because bed subsidence. Find bamboo sheet and put under the bed. If any pain in the afternoon. Indicates that the positions during the day is inappropriate. Or may not work properly because the chair seat. If the pain all the time. Indicates that the bone or muscle inflammation after the settlement movement have to go see a doctor.

            ออกกำลังกาย
            • ออกกำลังกายหลังเลิกงานจะช่วยปรับความสมดุลของการเคลื่อนไหวร่างกายที่ไม่เหมาะสม ลดความตึงเครียด และขจัดขยะที่ร่างกายสะสมระหว่างวันได้ดี สามารถป้องกันโรค office syndrome ความเครียด ภาวะเนื้อเยื่อเกี่ยวกันพันอักเสบเรื้อรัง(MPS-Myofascial Pain Syndrome) เสริมสร้างภูมิต้านทาน ป้องกันภาวะการพิการรูปของกระดูกและกล้ามเนื้อ ทำให้นอนหลับสบาย ป้องกันภาวะซึมเศร้า กระตุ้นการหมุนเวียนเลือดและน้ำเหลือง
            • กีฬาเชิงเดี่ยว จะทำให้ร่างกายสูญเสียความสมดุลมากขึ้น มันพัฒนากล้ามเนื้ออยู่ด้านเดียว กีฬาเชิงเดี่ยวเช่น ฟุตบอล แบดมินตัน ปิงปอง เทนนิส ให้ออกกำลังกายดุลยภาพ เช่น แอโรบิค ว่ายน้ำ โยคะ คือเราสามารถเล่นกีฬาเชิงเดี่ยวได้แต่หลังจากเล่นเสร็จเราควรจะออกกำลังกายดุลยภาพเพื่อปรับสมดุลให้กับร่างกาย เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อให้ได้ดุลยภาพ
            • ไม่ควรออกกำลังกายหลังสามทุ่มเพราะจะให้ร่างกายตื้นตัว ทำให้นอนไม่หลับ
            • ใน 1 อาทิตย์ ควรออกกำลังกายแบบปกติของเรา 5 วัน และเป็นกีฬาอื่นเสริมที่แตกต่างออกไป 1 วัน และพัก 1 วัน เช่น โยคะ 5 วัน ขี่จักรยาน 1 วัน และพัก 1 วัน เพื่อให้ร่างกายไม่ชิน และเผาผลาญได้มากขึ้น



            Exercise
            • The exercises after work will help adjust the balance of body movement that is not appropriate, reduce tension. Exercise can remove body waste that has been accumulated during the day. It can prevent office syndrome. MPS-Myofascial Pain Syndrome protect the immune system. Prevention of Disability form of bone and muscle. To sleep. Prevention of depression. Stimulate blood circulation and lymph
            • Compounding Sports makes the body lose more balanced. It is one-side of muscular can developed. Compounding Sports such as football, badminton, table tennis, tennis. The exercise that you should do such as aerobics, swimming, yoga. We can play compounding sports but after finish playing, we should exercise balance. To balance the body. To develop the muscles to be balanced.
            • Do not exercise after 9 p.m. because it will make a shallow body and make you can't sleep.
            • In 1 week should exercise regularly 5 days and play other sports which is different one day and stop one day. For example you play yoga 5 days, cycling 1 days and break one day to keep the body good.


            การนอน
            • ห้ามดื่มน้ำเย็นก่อนนอนเพราะจะทำให้ร่างกายสดชื่นและนอนไม่หลับ ให้ดื่มน้ำอุ่นๆ
            • เปิดไฟสลัวๆ ก่อนเข้านอนเพื่อปรับร่างกาย (cool down) 
            • การนอนไม่พอจะทำให้อ้วน และมีเซลลูไลท์สะสม เพราะสารเลบติน (leptin) ที่หลั่งออกมาให้เวลาที่เรานอน จะทำให้เราไม่รู้สึกหิว
            • การนอนให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกายสามารถลดความอ้วน ผิวพรรณดี ชลอความชรา
            • เครื่องประดับทั้งหมดควรจะถอดออกในเวลานอน
            • ไม่นำอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า มือถือ ไว้ใกล้หัวนอนมากเกินไปเพราะคลื่นไฟฟ้าจะไปรบกวนคลื่นสมองได้เวลานอน ทำให้นอนหลับไม่สนิท นาฬิกาปลุกก็อย่าไว้ใกล้จนเกินไป
            • ไม่ควรปลุกเด็กๆ ตำ่กว่า 18 ปี ด้วยการใช้นาฬิกาปลุกเพราะจะทำให้เด็กผวา ใจสั่น และเครียดตั้งแต่เช้า จะทำให้เครียดไปทั้งวัน คนที่เป็นพ่อเป็นแม่ควรจะเดินไปปลุกด้วยการเรียกชื่อเบาๆ ให้ตื่นจะทำให้เด็กอบอุ่นกว่า จะสดชื่นไปทั้งวัน
            • ก่อนนอนให้ฟังเพลงบรรเลงเบาๆ หรือนั่งสมาธิสักครู่
            • การนอนชลอความชรา ให้นอนราบกับพื้น และเอาขาพาดบนขอบเตียง (สูงจากพื้นประมาณ 1 ฟุตจากพื้น) เปิดไฟสลัวๆ และฟังเพลงสักเพลง จะช่วยให้ไม่เป็นเส้นเลือดขอด ช่วยเรื่องหัวใจให้หัวใจไม่ขาดเลือด ป้องกันเรื่องปวดหลัง กล้ามเนื้อหลังจะคลาย เลือดไปเลี้ยงศีรษะและใบหน้าได้มากขึ้นทำให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ ลบริ้วรอย ฟื้นฟูความจำ และป้องกันผมร่วง หลังจากทำเสร็จก็จะง่วงนอนและอยากนอนแล้ว ก็ขึ้นไปนอนบนเตียงจะช่วยให้นอนได้อย่างมีคุณภาพ แต่ถ้าเผลอหลับในท่านี้ตื่นขึ้ืนมาหน้าก็จะบวมเพราะสารเหลวต่างๆ จะมากองอยู่ที่หน้ามากเกินไป หน้าก็จะบานเป็นกระด้ง
            • ถ้าสามารถทำสัปตะวัชรสนะก่อนนอนก็จะทำให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น



            Sleep
            • Do not drink cold water before going to bed because it makes the body fresh and can't sleep. To drink a water before go to bed, should drink warm water.
            • Dim light before going to bed to adjust the body (cool down).
            • Sleep is not enough will make you put on weights. It can collect cellulite. because leptin will come out of from the body by the time when we are sleeping which make you feel hungry.
            • Sleep enough for what body needs can lose weight. It makes your skin beautiful and anti- aging skin.
            • All jewelry should be removed when you sleep.
            • Do not bring electrical appliances, mobile phones near your head. Because the power of the radio wave can interfere your brain when you are sleeping. Do put it too close when you sleep. Alarm clock, it should not be too close either.
            • Do not wake the children under 18 years of using an alarm clock because it makes children stressed and scared shake from the morning and get stress for the whole day. Father and mother should wake her/ him up by calling a name lightly. Children will feel warm when she/ he awakes and feel fresh all day.
            • Before going to bed to listening to the light music. Or do meditation.
            • Aging sleep. By sleeping lie down on the floor. Remove legs and leaning on the edge of a bed. (height about 1 foot from the ground). Lights dim and turn on some music. It will help non-blood knot and help to protect heart ischemia. Protection on low back pain. Back muscles can be relaxed. Blood goes to the head and face to make your face more youthful. Remove wrinkles, restoring the mind and prevent hair loss. After completion all the stages, it will then fall asleep and sleep and go to bed which helps with sleeping quality. If you are falls asleep accidentally with this position, when you are awake your will swell because of the various of the liquid in your body will lie on your face. Your face will look like a rice-winnowing basket.!!!
            • If you can do a Supta Vajarasana before you sleep, you will sleep much easier.





              12.09.2553

              ปกิณกะ: การดูแลสุขภาพองค์รวมเชิงรุก (1/2)

              การดูแลสุขภาพองค์รวมเชิงรุก ตามหลักของอายุรเวช และแพทย์ทางเลือก ผสมกันไปเลยนะคะ เราเริ่มกันตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอนกันคะ

              ตื่นนอน: > รับแดด > ดื่มน้ำ > ยึดตัว
              • เวลาตื่นเช้าดีที่สุดคือเวลา 5.30 นาฬิกา มารับแสงแดดยามเช้า เป็นช่วงเวลาที่แสงแดดดีที่สุดตั้งแต่ 6.00  จนถึง 8.00 นาฬิกา เลยจากนั้นก็ไม่ค่อยดีแล้ว แสงแดดในยามเช้าจะรักษาโรคผิวหนัง โรคกระดูกพรุน โรคเกี่ยวกับจิตซึมเศร้า เนื่องจากขาดเซโรโทนิน (serotonin) เมลาโทนิน (melatonin) พวกเอ็นโดฟิน (endorphin) ไม่ได้หลั่งมาเป็นเวลานาน รักษาผู้มีบุตรยาก แสงแดดยามเช้าจะช่วยให้สเปริม (sperm) แข็งแรง และปรับความสมดุลของโฮโมน
              • ผิวคนเราสามารถสังเคราห์วิตามินดีได้ เมื่อรับแสงแดดแต่ต้องเป็นผิวที่มัน ไม่ใช่ผิวที่แห้ง ต้องทาน้ำมันก่อนแล้วค่อยอาบแดด พวกน้ำมันมะพร้าว น้ำมันงา (วิตามิน A, D, E, K เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำมัน) วิตามินดีจะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมแคลเซียมได้ โดยเฉพาะคนที่ผอมบางจะมีโอกาสเป็นโรคกระดูกพรุนสูงต้องทาน้ำมันก่อนแล้วค่อยอาบแดดในช่วงเวลา 6.00 - 8.00 น. การเล่นโยคะตอนเช้าพร้อมรับแสงแดดก็จะดีมาก
              • นาฬิกาชีวภาพอยู่ที่หน้าผาก (ตาที่3) กล้ามเนื้อใต้ขอบตาเป็นตัวกระตุ้นการสร้าง เมลาโทนิน (melatonin) เซโรโทนิน (serotonin) แต่ต่อมพิทูอิทารี (pituitary gland) เป็นตัวสร้าง พอตื่นนอนก็ให้เปิดหน้าต่างรับแสงแดดเลยเพื่อให้ร่างกายรู้ว่าตอนนี้เช้าแล้วนะ ให้ร่างกายสดชื่น เช่นเดียวกันตอนก่อนนอน ก็ค่อยๆ ปิดไฟเพื่อให้ร่างกายสงบลง ก็ที่จะนอน จะทำให้นอนหลับง่ายขึ้น หลับสบายขึ้น
              • อากาศที่ดีที่สุดในแต่ละวันคือช่วง 4.00 จนถึง 6.00 นาฬิกา เป็นช่วงศิวยาม อ่านหนังสือตอนนี้ดี ทำให้จำได้ดี
              • หลังจากตื่นนอนหลับแสงแล้วก็ให้ดื่มน้ำแก้วใหญ่ๆ 2 แก้ว (ดื่มให้มากที่สุด) เป็นนำ้อุณหภูมิห้อง และที่ดีควรใส่ในภาชนะที่เป็นทองแดง ดินเผา แก้ว หรือเซรามิค ไม่ควรใช้ที่เป็นพลาสติก ถ้าตื่นขึ้นมาแล้วมีอาการปวดหัว มึนๆ งง แสดงว่าร่างกายขาดน้ำ ระดับน้ำในกระแสเลือดข้นเกินไป (dehydrated) การดื่มน้ำยังสามารถช่วยเรื่องระบบขับถ่ายด้วยได้
              • หลังจากดื่มน้ำ > ยืดตัวทำท่าพฤกษาสนะ (ประสานมือด้านหน้า หายใจเข้ายืด เขย่ง ดันตัวยืด หายใจออกปากเป่า ลดมือลง) ทำ 4 - 5 ครั้ง เป็นการขจัดของเสียที่คั่งค้างตามกล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆ และเป็นการกระตุ้นร่างกายให้กระปรี้กระเป่า สดชื่นขึ้น เป็นการรับออกซิเจนและขับคาร์บอนไดออกไซด์ในร่างกาย
              • ไม่อยากแนะนำให้ออกกำลังกายตอนเช้าถึงแม้นว่าการออกกำลังกายตอนเช้าจะทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าตอนเย็นถึง 3 เท่าแต่สำหรับคนที่ต้องทำงานระหว่างวันจะทำให้ช่วงบ่ายๆ รู้สึกเพลีย เหนื่อย และทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ ยกเว้นผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือแม่บ้านที่ไม่ต้องทำงาน 



              เข้าห้องน้ำ: ขับถ่าย ล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำ

              อุจจาระ เราต้องสำรวจและสังเกตุอุจจาระของเราด้วยว่าเป็นอุจจาระวันต่อวันหรือไม่ (การที่เราอุจจาระทุกวัน ไม่ได้แปลว่าเป็นอุจจาระวันต่อวัน) 
              1. อุจจาระต้องวันต่อวัน อาหารที่เราทานวันนี้วันรุ่งขึ้นก็ต้องถ่ายออกมา (ทดสอบได้ด้วยการกินอาหารที่ร่างกายย่อยไม่ได้ เช่นถั่วงอก ผักชี มะละกอดิบ ผักบุ้ง ข้าวโพด ฯลฯ พรุ่งนี้ต้องออกมา) คือระบบย่อยอาหารทำงานปกติ ถ้าหลายวันถึงจะออกมามีโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้สูงเพราะจะหมักหมมอยู่ในร่างกาย
              2. อุจจาระต้องเบา และลอยน้ำ จับตัวกันมีลักษณะเหมือนข้าวหลาม คือมีปริมาณไฟเบอร์มาก แต่ถ้าทานแป้งและโปรตีนมากอุจจาระจะหนักและเหนียวจะจมน้ำ และต้องไม่มีฟอง
              3. อุจจาระต้องขนาดใหญ่ เพราะลำไส้ใหญ่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 น้ิว ถ้าอุจจาระขนาดเล็กคือผนังลำไส้เรามีแต่กากอุจจาระติดอยู่ที่ผนังลำไส้เยอะ ไม่ดีเพราะร่างกายจะดูดซึมสารอาหารวิตามินจากลำไส้ใหญ่ถ้ามีกากอุจจาระติดก็เท่ากับดูดซึมสารอาหารผ่านกากอุจจาระเข้าไปด้วย (อุจจาระเลยกลายเป็นอาหารของเรา) ทำให้ร่างกายไม่สดชื่น เซื่องซึม เหนื่อยง่าย อ่อนเพลียผิวพรรณหมอง หน้าจะมีแต่กระ ฝ้า และทำให้แบคทีเรีย over grow ส่งผลให้เราไม่สบายได้
              4. กลิ่นของอุจจาระต้องไม่มีกลิ่นเปรี้ยวๆ ปน กลิ่นเปรี้ยวๆ แสดงว่ามีแก๊สในกระเพราะลำไส้มาก เกิดจากการที่ตัวเราร้อนจัด ทำให้แบคทีเรีย over grow อาจจะทำให้ติดเชื้อ ทำให้ไม่สบายได้ กลิ่นเปรี้ยวๆ ของอุจจาระจะมาพร้อมกับอุณหภูมิที่ร้อนของอุจจาระด้วย รักษาโดยการดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้อุณหภูมิร่างกายเย็นลง และต้องไม่มีกลิ่นคาว กลิ่นคาวแสดงว่าอาจมีแผลในทางเดินอาหารในกระเพาะหรือลำไส้เล็ก แต่ถ้าเป็นในลำไส้ใหญ่จะมีเลือดปน ถ้าเลือดสีดำเข้มสันนิษฐานว่า มีแผลที่ลำไส้ใหญ่ตอนต้น ถ้าสีเลือดหมู สันนิษฐานว่ามีแผลที่ลำไส้ใหญ่ตอนกลาง ถ้าสีเลือดสด สันนิษฐานว่ามีแผลที่ลำไส้ใหญ่ตอนปลาย แต่ถ้าเลือดเป็นหยดๆ เลยคือมีแผลบริเวณปากทวาร
              5. สีของอุจจาระจะเป็นสีเหลือง - น้ำตาลเข้ม เป็นสีปกติของอุจจาระ (ขึ้นอยู่กับอาหาร และยาที่ทานเข้าไปด้วย) ถ้าเป็นสีดำ สันนิษฐานว่ากระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กเป็นแผล อาจมีภาวะเลือดจางร่วมด้วย
              • ถ้าผนังลำไส้เราไม่สะอาดเราสามารถไปทำ detox ก็ช่วยได้ (ในช่วงแรกให้ทำเดือนละ 1 ครั้ง ซัก 3 ครั้งติดต่อกัน และหลังจากนั้นการประมาณ 3 เดือนครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการรับประทานของเราด้วย) และการทานอาหารที่มีเส้นใยสูง (fiber) จะเป็นเหมือนไม้กวาดไปกวาดลำไส้ให้สะอาด และดึงเอากากอุจจาระที่ติดอยู่ตามผนังลำไส้ได้ (ลำไส้ใหญ่ดูดซึมวิตามินที่ละลายในน้ำ เช่น B, C เกลือแร่ต่างๆ และ แคลเซียม / ลำไส้เล็กดูดซึมวิตามินที่ละลายในน้ำมัน A, D, E, K) 
              • การกินยาถ่ายอันตรายกับร่างกายมากๆ ถ้ามีปัญหากับการขับถ่ายจริงๆ ให้ทานพวกไฟเบอร์อัดเม็ดจะดีกว่า
              • แก้วมังกรแดงเป็นผลไม้ที่ล้างลำไส้ได้ดี (สารเคลือบเมล็ดมันลื่นมากๆ และสีแดงยังช่วยลดปวด ลดการอักเสบด้วย)
              • ถ้ามีปัญหาเรื่องการขับถ่าย ถ่ายยากให้บีบบริเวณอุ้งมือ นวดเบาๆ จะเป็นการกระตุ้นให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น
              ปัสสาวะ เราก็ต้องสังเกตุด้วยว่ามีลักษณะและอาการอย่างไรกันบ้าง
              1. สีของปัสสาวะ ต้องเป็นสีใส (clear) ออกเหลืองนิดๆ ได้ขึ้นอยู่กับอาหารและวิตามินที่ทานเข้าไปด้วย
              2. กลิ่นของปัสสาวะ ควรจะเป็นกลิ่นเหมือนกลิ่นยูเรีย แต่ถ้ากลิ่นเหม็น และมีความเป็นตระกอน สันนิษฐานได้ว่าเราอาจเป็นเบาหวาน ไต ตับมีปัญหา และกระเพาะปัสสาวะติดเชื้อ ถ้ามีฟองเกิดจากแก็สในตัวเรา > การที่ตัวเราร้อนจัด > ทำให้แบคทีเรีย over grow ทำให้กระเพาะปัสสาวะติดเชื้อได้ รักษาด้วยการดื่มน้ำมากๆ เพื่อลดอาการตัวร้อน
              3. หลังจากปัสสาวะแล้วมีอาการเสียว เกิดจากกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เกิดจากการกลั้นปัสสาวะ รักษาด้วยการดื่มน้ำมากๆ และอย่ากลั้นปัสสาวะ (แต่ถ้ามีอาการไข้ร่วมด้วยต้องรีบไปโรงพยาบาลแล้ว) ถ้าปล่อยให้อักเสบบ่อยจะติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะและลามไปถึงไตได้
              4. แรงดันปัสสาวะไม่พุ่ง สันนิษฐานว่าบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง ไตเริ่มเสื่อมสภาพ เบาหวาน และหัวใจ (เช็คได้แต่ในผู้ชาย ในผู้หญิงเช็คไม่ได้)
              5. ปัสสาวะแบบกระปิปกระปอย และกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ สาเหตุจากหูรูดตรงกระเพาะปัสสาะเสื่อมคุณภาพ เกิดจากชอบกลั้นปัสสาวะ (มักเกิดกับผู้หญิง ไม่ค่อยพบกับผู้ชาย)
              6. ปัสสาวะไม่ออก อาจเกิดจากนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ เกิดจากการกินอาหารที่มีออกซาเรด ยางใสๆที่อยู่ในผัก เช่นสลัดผัก มะละกอดิบ มันจะเป็นเมือกไปอุดตันอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ ต้องดื่มน้ำตามมากๆ หรือเกิดจากธาตุหนักที่ปนอยู่ในน้ำ (นำ้ไหล) และอาหารก็จะไปอุดตันเป็นเม็ดแข็งๆ
              7. การออกกำลังกายในขณะปัสสาวะ เพื่อให้หูรูดปัสสาวะแข็งแรง โดยการ ปัสสาวะแล้วกลั้น ปัสสาวะแล้วกลั้น ทำซำ้ๆ ทำให้ปัสสาวะมีคุณภาพ ป้องกันการเป็นโรคช้ำรั่วได้ เป็นการออกกำลังกายของคีแกล คือการออกกำลังกายกระเพาะปัสสาวะ มดลูก เชิงกราน ท้องน้อย กล้ามเนื้อช่วงล่างรวมถึงการขมิบก้น (หายใจเข้าขมิบหายใจออกคาย) เป็นการทำ repair ในผู้หญิง


              • ถ้าคนผอม แต่ความดันสูงสันนิษฐานได้ว่ามีปัญหาที่ไตอาจจะติดเชื้อ เป็นแผลในไต แต่ถ้าผอมแล้วความดันตำ่ก็ธรรมดา
              • ถ้าคนอ้วน แต่ความดันตำ่อันตราย ผิดปกติ ช็อคได้ตลอด แต่ถ้าความดันสูงก็ธรรมดา
              • ผู้หญิงมีโอกาสติดเชื้อซิฟิริส โกโนเรีย หนองใน แผลริมอ่อน จากการใช้ห้องน้ำสาธารณะเนื่องจากฝารองนั่ง และการไม่กดน้ำทิ้งก่อน แต่ว่าโอกาสน้อยมากๆ
              • การบั๊มท้องบ่อยๆ จะช่วยให้กระเพาะปัสสาวะไม่มีการตกตระกอน
              การแปรงฟัน
              • ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันบ่อยๆ หลังจากที่เราหายจากไข้ให้เปลี่ยนแปรงสีฟันเลย ป้องกันเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เราไม่สบายกลับเข้าสู่ร่างกายอีก และเก็บให้ห่างกัน ไม่วางไว้ให้แปรงติดกัน หลังจากแปรงฟันเสร็จก็ล้างให้สะอาดและต้องสบัดให้แห้งด้วย ไม่ควรเก็บในที่ปิดควรจะโปร่งที่มีอากาศถ่ายเทดีป้องกันเชื้อรา
              • การใช้เกลือบ้วนปาก ช่วยให้ฟันแน่น ลดภาวะเหงือกบวม คอฟันย่น และดับกลิ่นปาก สาเหตุของกลิ่นปากเกิดจากร้อนใน แผลในกระเพาะอาหาร ภาวะเจ็บคอ คออักเสบ หลอดลมอักเสบ คราบหินปูน ฟันผุ โรคตับ เบาหวาน ไต และตำแหน่งของคอผิดปกติ (ซอกคอโค้งผิดปกติ ไปดักเศษอาหารไว้) อาจใช้น้ำมันมะพร้าวบ้วนปาก กลั่วคอ ได้แทนน้ำยาบ้วนปาก ปลอดภัยกว่า
              • สามารถใช้แบงกิ้งโซดา แปรงฟันเพื่อฟอกฟันขาว เป็นวิธีที่ปลอดภัย
              • หลังจากแปรงฟันเสร็จแล้วต้องใช้นิ้วนวดเหงือกด้วย เพื่อให้เหงือกได้หมุนเวียนเลือด เหงือกแข็งแรก เหงือกไม่ย่น และขูดลิ้นด้วย
              • น้ำตาลไซลิทอน เป็นน้ำตาลจากแอลกอฮอล ช่วยป้องกันไม่ให้ฟันผุ ใช้หลังอาหาร
              • ไม่ควรเก็บยา วิตามิน และของที่ไม่จำเป็นไว้ในห้องน้ำ เพราะแก๊สมีเทนในห้องน้ำและความชื้นทำให้เคมีในยาเปลี่ยนสภาพ
              • ไม่ควรดื่มน้ำทันทีหลังจากการแปรงฟันเสร็จ เพราะหลังจากแปรงฟันเสร็จปากเราจะเย็น ถ้าเราดื่มน้ำไปทันที จะทำให้กระเพาะอาหารเย็นตัว หดตัว และเกร็งกล้ามเนื้อกระเพาะมากเกินไป และส่งผลให้เกิดอาการคลื่นไส้ได้ ทำให้ร่างกายไม่สดชื่น  ควรจะพักซัก 10 นาทีหลังแปรงฟันเสร็จ



              อาบน้ำ สระผม ล้างหน้า
              • ล้างหน้าไม่ว่าจะล้างด้วยสบู่ โฟมล้างหน้า ที่สำคัญต้องล้างฟองสบู่ออกให้หมดจด หลังล้างหน้าแล้วให้ตบหน้าให้รู้สึกเจ็บ เพื่อกระตุ้นการหมุนเวียนเลือดให้มาเลี้ยงที่ใบหน้า และใช้น้ำแข็งไล้หน้ากระจายๆ ทั่วๆ ใบหน้าจนรู้สึกชา หน้าแดงๆ เพื่อขจัดเซลล์ที่ตายแล้ว ทำให้ใบหน้าสดใส ไม่หมองคลำ้ ขจัดริ้วรอย ใช้ได้ทุกวัน และล้างหน้าด้วยน้ำเย็น ไม่ล้างด้วยน้ำอุ่น เพราะจะทำให้ความชุ่มชื่นในผิวหมดไป
              • อาบน้ำ เช้า-ควรอาบน้ำเย็น ทำให้สดชื่น เย็น-ควรอาบน้ำอุ่นเพื่อผ่อนคลาย และทำให้หลับสบาย
              • อาบน้ำด้วยน้ำมัน (ราดน้ำให้ตัวเปียก ชโลมน้ำมันและใช้ผ้าขนหนูถูตัว และราดน้ำอีกครั้ง) สามารถอาบได้ทุกครั้งที่อาบน้ำ
              • หลังอาบน้ำเสร็จควรจะทาน้ำมันเคลือบผิวสามารถป้องการการติดเชื้อได้ เป็นเกราะป้องกันผิวจากสภาพแวดล้อม การติดเชื้อจากการสัมผัส
              • ขัดผิวอาทิตย์ละครั้ง ด้วยเกลือ หรือกากกาแฟผสมน้ำผึ้ง โยเกริต์ และมะนาว
              • กระเกิดจากเซลล์ผิวเสื่อม เกิดสภาวะกลายพันธุ์ของเซลล์ผิว
              • ครีมนวมผมอาจก่อให้เกิดสิวได้ เพราะจะมีลักษณะเป็นฟิล์มเคลือบ ทำให้ผิวหายใจไม่ได้ และหมักหมม ใช้น้ำมะพร้าวแก่ หรือน้ำมะพร้าวเผาเอามาหมักผมได้  ทำให้ผมเงางาม น้ำข้าวมีวิตามินบีทำให้รากผมแข็งแรง
              • ทำเล็บ สระผมที่ร้านมีสิทธิ์ติดโรคติดต่อต่างๆ ได้ง่าย
              • โกนหนวด ขนขา ใช้ว่านหางจระเข้ แทนครีมโกนหนวดดีกว่า และยังป้องกันการระคายเคืองได้ แต่ระวังยางที่เปลือกให้ล้างออกให้หมดก่อน และต้องโกนตามแนวขน อย่าโกนขวางเพราะจะทำให้เป็นขนคุดได้
              • ไดร์เป่าผม ไม่ค่อยใช่บ่อยเพราะจะทำให้รากผมอ่อนแอลง และคลื่นไฟฟ้าในสมองจะหยุดชั่วครู่ทำให้ความจำเสื่อม และโง่ลง
              • การโกรกผมสีโค้ก สีแดงอันตรายมาก ทะลุทะลวงไปถึงไต สียิ่งเข้มยิ่งอันตราย มีผลทำให้เป็นมะเร็ง ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ควรจะโกรกสีอ่อนเช่น สีน้ำตาล
              • AHA - ผลัดผิวระดับลึก ทำจากกรดผลไม้ / BHA - ผลัดผิวระดับตื้น สังเคราะห์
              • อย่าลืมทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านด้วย SPF 30 ขึ้นไปนะคะ
              ได้ออกจากห้องน้ำกันแล้ว ตอนหน้ามาต่อกันกับเรื่องการแต่งตัว กินอาหาร การออกกำลังกาย กันนะคะ